From Up on Poppy Hill ผลงาน อนิเมะแนะนำ อีกเรื่องหนึ่งที่เน้นที่ความรู้สึกและการสร้างความทรงจำ กับการถ่ายทอดความรักในช่วงวัยมัธยมอย่างสมจริง ทำให้ผู้ชมรู้สึกคิดถึงความอบอุ่นที่ผ่านมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ

การถ่ายทอดเรื่องราวความรักและความหวังของคู่หนุ่มสาวในช่วงเวลาที่กรุงโตเกียวกำลังจัดเตรียมเป็นเจ้าภาพในงานโอลิมปิกปี 1964 ที่พวกเขาต้องพยายามปกป้องไม่ให้คลับเฮาส์เก่าแก่ถูกทำลายไป เรื่องราวที่สร้างความตื่นเต้นและสร้างความรู้สึกที่อบอุ่นนี้จะดำเนินต่อไปเช่นไร จะสนุกและน่ารับชมแค่ไหน ติดตามต่อจากรีวิวของทางเราได้เลย และท่านผู้อ่านสามารถ ดูหนังออนไลน์วีไอพี ได้ที่ doonungvip.com

ผลงานการกำกับของ โกโร่ มิยาซากิ ผู้กำกับที่มีประสบการณ์แต่ประสบความสำเร็จในค่าย จิบลิ น้อยที่สุด ตั้งแต่หลังผลงานอนิเมชั่นแรกของเขาในปี 2006 อย่าง”Tales from Earthsea” ที่ได้รับคำวิจารณ์ที่ไม่ดีจากนักวิจารณ์และแฟนๆการ์ตูน นี่เป็นเหตุผลที่ผลงานนั้นไม่ได้รับความนิยมอย่างที่คาดหวัง

ในอนิเมะเรื่องนี้ โกโร่ มิยาซากิ ได้พยายามกลับมาด้วยผลงานใหม่ หลังจากเสียเวลาจากการกลับมาแก้ตัวเกือบ 5 ปี โดยเลือกใช้เรื่องนิยายญี่ปุ่นที่ชื่อ “Kokurikozaka Kara” ของ จิซึรุ ทากาฮาชิ และ เท็ตสึโระ ซายามะ เป็นแรงบันดาลใจ โดยแปลงเป็นอนิเมชั่นเรื่องยาว

เน้นในเรื่องราวความรักของวัยรุ่น โดยมีลักษณะของ melodrama หรือ ‘ละครน้ำเน่า’ ที่มีความเข้มข้นอย่างสูง อนิเมะเรื่องนี้จึงเป็นผลงานที่โกโร่ มิยาซากิ ได้คืนความเชื่อมั่นและรักษาตำแหน่งของเขาในวงการ ซึ่งผลงานเรื่องนี้ สามารถสร้างความนิยมและได้รับความชื่นชมจากคอมมูนิตี้ในคราวนั้นได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเรื่องราวนี้จะไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนักในประเทศไทยก็ตาม

โกโร่ มิยาซากิ สามารถทำการ์ตูนออกมาแบบมีคุณภาพมากๆแบบการ์ตูนของค่าย พิกซาร์ และการ์ตูน จิบลิ นั้นน่าจะมาจากความสามารถในการสร้างลายเส้นตัวละครที่มีเสน่ห์และน่ารักมาก อีกทั้งก็อาจเป็นเพราะการสร้างตัวละครที่เชื่อถือได้และเกิดความสัมพันธ์อารมณ์กับผู้ชมได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ผลงานที่มีคุณภาพเหล่านี้ เช่น “Arrietty” มีลายเส้นตัวละครที่เป็นเอกลักษณ์และน่ารัก ลายเส้นเหล่านี้อาจเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมั่นและเชื่อมต่อกับเรื่องราว แม้กระทั่งถึงเรื่องยากๆ ในที่สุด ผู้สร้างผลงานสามารถนำเสน่ห์นี้มาสร้างความหลงใหลและความรู้สึกส่วนตัวให้กับผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ป๊อปปี้ ฮิลล์ ร่ำร้องขอปาฏิหาริย์ ชื่อภาพยนตร์:  ป๊อปปี้ ฮิลล์ ร่ำร้องขอปาฏิหาริย์ / Kokuriko Zaka Kara / コクリコ坂から

ผู้กำกับภาพยนตร์: Goro Miyazaki (โกโระ มิยาซากิ)

ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Tetsurô Sayama (original story), Hayao Miyazaki (screenplay), Keiko Niwa (screenplay), Tetsuro Sayama (comic), Chizuru Takahashi (comic)

อำนวยการสร้างภาพยนตร์:

นักแสดง(นักพากย์): มาซามิ นากาซาวะ, จุนอิจิ โอคาดะ , ชุนสุเกะ คาซามะ

แนว/ประเภท: Animation, Drama

เรท: ไทย/

ความยาว: 91 นาที

สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Srudio Ghibli, NTV, Dentsu, Toho Scope

วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 26 เมษายน 2555 (เฉพาะเครือเอเพ็กซ์)

เป็นที่ทราบกันดีว่าค่าย Studio Ghibli ได้สร้างผลงานอนิเมะมาถึง 22 เรื่องในระยะเวลากว่า 20 ปี โดยเน้นให้เนื้อหาเป็นที่บันเทิงและสร้างความตื่นเต้น ในขณะเดียวกันก็มีการสอดแทรกความคิดและความรู้สึกที่ลึกซึ้งลงไปในเนื้อหาอย่างละเอียดอ่อน

นอกจากนี้ยังมีคอนเซ็ปต์ที่ว่า “เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี” ซึ่งหมายถึงว่าเรื่องนั้นเหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หากเด็กเล็กมีการรับชม ควรมีผู้ใหญ่มาคอยแนะนำและอธิบายเนื้อหาให้เข้าใจได้ถูกต้อง จากวิธีนี้ เด็กสามารถได้รับประสบการณ์การรับชมอนิเมะที่ดีและเรียนรู้ไปพร้อมกับการสนุกสนาน

แนวคิดนี้ก็สื่อถึงอนิเมะ ซึ่งถึงแม้จะมีเนื้อหาที่ดูเรียบง่าย แต่กลับเก็บอารมณ์และความรู้สึกหลายอย่างไว้ในตัว การเล่าเรื่องในเชิงบันเทิงไม่เพียงแค่สร้างความสนุกและเรียบง่าย แต่ยังสร้างความประทับใจที่ลึกซึ้งที่อาจจะอยู่ในใจคนที่รับชมด้วย

การมีตัวละครที่มีความเป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์อันน่าหลงใหล ทำให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมั่นในผลงานของ Studio Ghibli  และมีความสนใจที่จะติดตามเนื้อหา การสร้างเนื้อหาที่ดีและเรื่องราวที่มีความหลากหลายในแง่มุมต่างๆ ที่คอยให้กำลังใจผู้ชมและเกิดความทรงจำที่ยาวนานกับผลงานที่ผู้ชมได้รับชม

ในเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองที่เงียบสงบและติดริมทะเล ณ บ้านใหญ่แห่งหนึ่งที่มีเพียงผู้หญิงทั้งหมดอยู่ นำโดยนางเอกชื่อ “อูมิ” ซึ่งเป็นสาวมัธยมธรรมดา ที่เข้าร่วมชมรมหนังสือพิมพ์ และมีเพื่อนร่วมชมรมคือพระเอกชื่อ “คาซามะ ชุน” เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ของโรงเรียน นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับการปกป้องละติน ควอเตอร์ ซึ่งเป็นอาคารโบราณที่กำลังจะถูกนำปใช้ในโครงการพัฒนาที่เกิดขึ้นในเมือง

เรื่องราวได้เริ่มต้นขึ้นเมื่ออูมิชวนเพื่อนๆ มาร่วมกันทำความสะอาดและซ่อมแซมละติน ควอเตอร์เพื่อร่วมสร้างความเข้มแข็งให้กับโบราณสถานดังกล่าว เพื่อปกป้องและรักษาความอนุรักษ์ของเมือง

ในระหว่างนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างอูมิกับคาซามะชุนก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่ออูมิเชิญชวนชิโร่มาปาร์ตี้ที่บ้านของเธอ ที่นั่นชุนได้เห็นรูปภาพใบหนึ่งที่ทำให้เขารู้ว่าอูมิอาจเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขา ความรู้สึกนี้ได้นำพาเรื่องราวความรักระหว่างทั้งสองไปสู่การพัฒนาและเปลี่ยนแปลง และจบลงด้วยความประทับใจที่คาดไม่ถึง

ความหลากหลายและความลึกลับในเรื่องราวของตัวละครในการ์ตูนของค่าย จิบลิ โดยเฉพาะในผลงานเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าเนื้อหาจะอยู่ในโทนและแนวละครน้ำเน่า แต่ก็สัมผัสถึงความมีเสน่ห์ที่มาพร้อมกับลายเส้นตัวละครที่น่ารักและ ทำให้ผู้ชมรู้สึกมีส่วนร่วมในเรื่องราวที่น่าประทับใจนี้

ผลงานอนิเมะเรื่องนี้ จริงๆ นั้นมีความสามารถในการเล่าเรื่องออกมาในรูปแบบที่ไม่เพียงแต่เป็นการสื่อถึงอารมณ์ของตัวละครแนวรักน้ำเน่า แต่ยังเป็นช่องทางให้ผู้ชมสัมผัสถึงประสบการณ์และความคิดเห็นของตัวละครเองด้วย นอกจากนี้ การมีเด็นเล็กๆ ที่ถูกนำเข้ามาในเนื้อเรื่องเช่น เรื่องราว ความสามัคคี การค้นหาพ่อที่แท้จริงของ ยูมิ และประเด็นเล็กๆน้อยๆที่หนังใส่เข้ามา ที่ท้ายสุดตัวหนังก็สามารถผยุงเรื่องราว รักน้ำเน่า ไปในแบบที่มีความสนุกสนาน และน่าประทับใจมาก ทำให้ผู้ชมมีโอกาสสังเกตและคิดถึงเรื่องราวที่นอกเหนือจากเรื่องหลัก ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าเรื่องราวมีความหลากหลายและความเชื่อมโยงอย่างสมบูรณ์

การผยุงเรื่องราว “รักน้ำเน่า” ในทางฝั่งของละครหลังข่าว เพื่อให้ผู้ชมเห็นความลึกลับและประเด็นที่น่าสนใจของเรื่องนั้น ถือเป็นทั้งความพยายามในการส่งเสริมความเข้าใจและทำให้ผู้ชมรู้สึกเกี่ยวข้องกับเรื่องราว และยังทำให้ผู้ชมรับรู้ถึงการวางแนวคิดและการผลิตงานนั้นๆ ที่ถูกนำเสนออย่างมีคุณภาพและน่าประทับใจ

การ์ตูนของค่าย จิบลิ ไม่เพียงแต่เป็นการนำเสนอเรื่องราวเพื่อความสนุก แต่ยังเป็นช่องทางให้ผู้ชมสัมผัสถึงความเชื่อมั่นและความรู้สึกในเรื่องราว รวมถึงความร่วมมือ ความสามัคคีในเรื่องที่นอกเหนือจากด้านสนุกสนาน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลที่ดีที่ผู้กำกับสามารถนำเสนอออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติและน่าประทับใจ

ท่ามกลางการพูดถึงการ์ตูนของค่าย จิบลิ นั้น ความสำคัญของเพลงประกอบและฉากจบก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรถูกละเลย เพลงประกอบมีบทความที่สอดคล้องกับเรื่องราวและสามารถสร้างความอารมณ์และความรู้สึกให้กับผู้ชมได้อย่างอัศจรรย์ นอกจากนี้ เพลงประกอบยังมีความสามารถในการเสนอช่วงท้ายของเรื่องอย่างสร้างสรรค์และอบอุ่น ทำให้ผู้ชมรับรู้ถึงอรรถรสของเรื่องราวที่ดูและฟัง

ฉากจบที่น่าประทับใจก็เป็นจุดเด่นอีกอย่างของผลงาน มันเป็นเวลาที่ผู้ชมสามารถพิจารณาและตีความเนื้อหาของเรื่องราว รวมถึงความรู้สึกและอารมณ์ของตัวละครต่างๆ ในระหว่างที่เรื่องกำลังจะจบลง มันสร้างความสมดุลให้กับผู้ชมและทำให้เรื่องราวอยู่ในความจำของพวกเขาอย่างยิ่ง

เพลงประกอบและฉากจบของการ์ตูน จิบลิ ที่ส่งเสริมให้ผู้ชมรับรู้ถึงเสน่ห์และความน่าประทับใจที่ไม่ได้มาจากแค่เนื้อหาเท่านั้น นอกจากนี้ การตั้งคำถามและการสำรวจแง่มุมต่างๆ ของเรื่องราวเมื่อดูจบ ยังทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าเข้าใจเรื่องราวและตัวละครมากขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ชมมีประสบการณ์การรับชมและทำความเข้าใจการ์ตูนอย่างเต็มรูปแบบและน่าประทับใจ

โดยสรุปแล้ว อนิเมะเรื่องนี้ถือว่าเป็นอนิเมชั่นที่ยังคงขนเรื่องราวความประทับใจที่คนดูมีให้ต่อสตูดิโอ จิบลิ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของ ลายเส้น เพลงประกอบ หรือแม้แต่ด้านตัวบทมาได้อย่างครบถ้วน จะขาดก็เพียงแต่ตรงที่ตัวหนังนั้นยังไม่ค่อยมีอะไรกลับไปให้เราคิดหรือติดตาเช่น Grave of the Fireflies

อนิเมะเรื่องนี้ เป็นผลงานอนิเมชั่นที่สามารถสร้างความประทับใจและความรู้สึกที่สตูดิโอ จิบลิ มีต่อผู้ชมได้โดยทั้งลายเส้นตัวละครที่น่ารัก สวยงาม พร้อมกับเพลงประกอบและฉากจบที่มีความเป็นเอกลักษณ์ หรือแม้แต่ด้านตัวบทที่สร้างมาได้อย่างครบถ้วน

ทั้งนี้เพื่อเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างความมุ่งหวังและความรู้สึกในผู้ชมให้เข้าใจเรื่องราวในลักษณะที่ครอบคลุมในเนื้อเรื่องทั้งหมด อย่างไรก็ดี เรื่องราวของอนิเมะ อาจจะขาดก็เพียงแต่ตรงที่ตัวหนังนั้นยังไม่ค่อยมีอะไรกลับไปให้เราคิดหรือติดตาเช่น Grave of the Fireflies แต่ในทางที่แตกต่าง ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของผลงานต่างๆ ยังมีคุณค่าและเสน่ห์เฉพาะของตัวมันเอง

อ่านจบกันแล้วอยากขอแนะนำ พ่อบ้านสุดเก๋า อนิเมะตลกเก๋าๆ ผลงานค่าย netflix มาให้อ่านรีวิวกันสนุกๆค่ะ